หมอผีถึงคราวซวย

หมอผีเฉลิมศักดิ์ที่ผมให้เกียรติกล่าวถึงนี้ เป็นขาประจำของห้องศาสนาพันธุ์ทิพย์มาเป็น  10  ปีแล้ว และก็อย่างที่ผมเขียนไปแล้วว่า

ใครอยู่ห้องศาสนาพันธุ์ทิพย์เกิน 5 ปี ก็คือ พวกสมองหมา ปัญญาควายทั้งสิ้น

หมอผีเฉลิมศักดิ์ก็เป็นพวกสมองหมา ปัญญาควายตัวจริงเสียงจริงคนหนึ่ง

ถ้าถามว่า ทำไมผมจึงตั้งฉายาว่า “หมอผีเฉลิมศักดิ์”  ผมก็มีคำตอบ ดังนี้  เฉลิมศักดิ์แกชอบโจมตีพระพุทธทาส 

ลูกศิษย์พุทธทาสก็ไปค้นพบว่า แกนับถือบุญมี เมธางกูร ซึ่งชอบทรงเจ้าเข้าผี ผมก็เลยเรียกแกว่า “หมอผีเฉลิมศักดิ์”

หมอผีเฉลิมศักดิ์ฝังชีวิตอยู่ในห้องศาสนาพันธุ์ทิพย์มานานแล้ว  ความสมองหมา ปัญญาควายของแกเป็นดังนี้  เป็นมาประจำคือ

แกชอบยกพระไตรปิฎกมาให้ความคิดเห็น  แต่ไม่อธิบาย “ห่า” อะไร ว่าที่ยกมาเกี่ยวข้องกันยังไง เป็นเหตุเป็นผลกันอย่างไร

ยกมาดื้อๆ อย่างนั้น เป็นมาแล้วสิบๆ ปี  มันก็แสดงถึงความเป็นสมองหมา ปัญญาควายอย่างแท้จริง

เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้น 

ผมกับหมอผีเฉลิมศักดิ์ไม่ค่อยได้ถกเถียงอะไรกันหนัก  ตอนที่ผมอาละวาดอยู่ในห้องศาสนาพันธุ์ทิพย์  ที่มาเกี่ยวพันกันครั้งนี้ เพราะ ผมถูกพาดพิง

กล่าวคือ มีแฟนคลับของผมเอาการสอนวิชาธรรมกายของผมไปเผยแพร่ในพันธุ์ทิพย์  ท่านตั้งกระทู้ว่า “วิชาธรรมกายสามารถสอนเด็กปัญญาได้”

ท่านเอาวิดิโอลงไป  ลิงก์ก็คือ ที่นี่  http://youtu.be/QQE_LxvIDYE

แล้วท่านก็อธิบายไปด้วยว่า

เด็กปัญญา คือ นักเรียนที่มีความบกพร่องทางสติปัญญา เรียกกันโดยทั่วไปว่า "เด็กปัญญาอ่อน"  จากการสอนของ ดร. มนัส โกมลฑานั้น จะเห็นได้ว่า สายปฏิบัติธรรมในประเทศไทยนี้ ที่มีความเป็นสากล คือ สอนได้ครอบคลุมพุทธศาสนิกชนทุกหมู่เหล่า ก็มีแต่วิชาธรรมกายเท่านั้น การสอนในวิดิโอข้างต้น ดร. มนัส โกมลฑาสอนให้กับนักเรียน โรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดชัยภูมิ โดย ดร. มนัส โกมลฑา เมื่อวันที่  14  มิถุนายน  2556 ที่ผ่านมา ใครสงสัยอย่างไร เชิญตรวจสอบได้

หมอผีเฉลิมศักดิ์ไม่รู้ไปสวมหัวสิงห์ กินดีหมีมาจากไหน เข้ามาให้ความคิดเห็นที่  3 ยาวเหยียดเหมือนเดิม  ตามสไตล์ความโง่ของท่าน

[๒๘๗] ดูกรภิกษุทั้งหลาย บริษัท  ๒  จำพวกนี้  ๒ จำพวกเป็นไฉน คือ บริษัทตื้น  ๑ บริษัทลึก  ๑ ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บริษัทตื้นเป็นไฉน  ดูกรภิกษุ ทั้งหลาย บริษัทใดในธรรมวินัยนี้ มีภิกษุฟุ้งซ่านเชิดตัว มีจิตกวัดแกว่ง ปากกล้า พูดจาอื้อฉาว หลงลืมสติ ไม่มีสัมปชัญญะ มีจิตไม่ตั้งมั่น คิดจะสึก ไม่สำรวมอินทรีย์ บริษัทเช่นนี้เรียกว่าบริษัทตื้น ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็บริษัทลึกเป็นไฉน ดูกรภิกษุทั้งหลาย บริษัทใดในธรรมวินัยนี้ มีภิกษุไม่ฟุ้งซ่าน ไม่เชิดตัว มีจิตไม่กวัดแกว่ง ปากไม่กล้า ไม่พูดจาอื้อฉาว ดำรงสติมั่น มีสัมปชัญญะ มีใจตั้งมั่น มีจิตเป็นเอกัคคตา สำรวมอินทรีย์ บริษัทเช่นนี้ เรียกว่าบริษัทลึก ดูกรภิกษุทั้งหลาย บริษัท  ๒ จำพวกนี้แล บรรดาบริษัท  ๒ จำพวกนี้ บริษัทลึกเป็นเลิศฯ

แล้วก็มีการยกตัวอย่างหัวข้อบทความที่ผมเขียนเล็กน้อย สุดท้ายหมอผีเฉลิมศักดิ์สรุปว่า

ผมว่า  ดร. มนัส โกมลฑา  สาวกลัทธิธรรมกาย สายปากน้ำ (คงไม่ใช่สายจานบิน เพราะเห็นด่าเจ้าสำนักนี้) เป็นบริษัทตื้น  คือ ดีแต่พูดเก่ง ปากกล้า  ไม่ควรเป็นครูบาอาจารย์สอนธรรมะ

ผมอ่านแล้ว ผมก็นึกในใจ 

อ้าว......ไอ้หมอผีเฉลิมศักดิ์ มึงมาเกี่ยวอะไรกับกู  กูไม่ได้รู้เรื่องอะไร กูไม่เคยมีอะไรกับมึง  มึงมายุ่งกับกูทำไม

มึงวิพากษ์วิจารณ์ท่านพุทธทาส กูยังช่วยเอามาเผยแพร่ด้วย  มึงยังไม่เห็นความดีของกูอีก (ตรงนี้ ผมถือทุภาษิตที่ว่า ศัตรูของศัตรูคือมิตร) 

จริงๆ แล้ว เอาข้อมูลที่คนอื่นค้นมาแล้วมาใช้ เราก็จะประหยัดเวลาในการไปค้นข้อมูลเอง  คนอื่นหามาให้ เราก็เอาไปวิพากษ์วิจารณ์ต่อก็สะดวกดี

ตรงนี้ ผมยังงงๆ ว่า ทำไมหมอผีเฉลิมศักดิ์จึงลุกขึ้นมาเล่นงานผม  เพราะ ก่อนหน้านี้ ก็เคยเห็นชื่อกันในกระทู้ แต่ก็ไม่เคยสังสรรค์กัน

อย่างไรก็ดี ผมมานึกได้ว่า ผมได้วิพากษ์วิจารณ์ อาจารย์บุญมี เมธางกูรไปแล้ว 1 บล็อก  ผมคิดว่า หมอผีเฉลิมศักดิ์คงจะโกรธแค้นแทนหมอผีบุญมี  จึงได้มาฟาดงวง ฟาดงาเอากับผม

นั่นแหละ ผมผู้ถือทุภาษิตว่า  ลูกผู้ชาย ฆ่าได้หยามไม่ได้  อย่างนี้ มันก็ต้องเจอกันสักตั้ง ระหว่างวิทยากรสอนธรรมะ ซึ่งเป็นฝ่ายพระ กับหมอผี ดูซิว่าใครจะชนะ