บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์.... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989...
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู...

นิมิตคือดวงเวทนา



พอควายนรกภูมิธรรมตั้งกระทู้ไปแล้ว พวกสมองหมา ปัญญาควายก็มาเริ่มให้ความคิดเห็นกันเลย ถึงกระทั่งที่ผมเขียนบทความนี้ มีเพียง 9 ความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ 1 คือ ควาย firstini chemistani  

นั่นเขาใช้นิมิตในการแสดงอารมณ์ทางจิตครับ

อย่างจิตตานุสสติปัฏฐานก็เหมือนกัน ใช้เจโตปริยญาณในการดูจิตของตัวเอง

ถ้าได้ทิพจักขุญาณเขาจะทรงอารมณ์ดูไว้ตลอด ถ้าไม่ได้ ใช้ความรู้สึกอารมณ์กระทบแทน

ความคิดเห็นของพวกควายในพันธุ์ทิพย์จะเป็นไปในลักษณะนี้ เป็นส่วนใหญ่ คือ ให้ความคิดเห็นโดยไม่หลักฐานใดๆ ประกอบ

คำสอนของวิชาธรรมกายนั้น  นิมิตใช้เพียงขั้นตอนแรกเท่านั้น หลังจากที่เห็นดวงปฐมมรรคแล้ว หลังจากนั้น ไม่ใช่นิมิตแล้ว 

และการเห็นในวิชาธรรมกาย ไม่ใช่เป็นดวงตลอดไป  ขึ้นอยู่กับวิชาที่จะเรียน แต่ในขั้นวิชา 18 กาย ซึ่งเป็นวิชาพื้นฐาน จะเห็นดวงธรรมกับกาย

วิชาธรรมกายสอนว่า “ดวงเวทนา” ไม่ใช่นิมิต  ไอ้ควายพวกนี้ เป็น “นิมิต” แล้วมันจะคุยกันรู้เรื่องได้อย่างไร

เมื่อความคิดเห็นที่ 1 ลงไปแล้ว ก็มีคนมาให้ความคิดกันอีก 3 ความคิดเห็น  ควายนรกภูมิธรรมจึงมาตอบความคิดเห็นที่ 1 ในความคิดเห็นที่ 5 ดังนี้

คห 1 ครับ แค่ดูจิตตัวเอง ไม่ต้องใช้เจโตนะครับ เจโตใช้สำหรับดูจิตผู้อื่น

เวลาดูจิตตนเอง เช่น โกรธก็ให้รู้ ดีใจก็ให้รู้ เสียใจก็ให้รู้ ทุกคนทำได้หมด ยกเว้นคนบางจำพวก เช่น คนบ้า

ในพระสูตรท่านให้ดูจิต แต่ธรรมกายดันไปดูนิมิต แล้วก็โมเมว่าทำจิตตาอยู่ นิมิตนี่เป็นหนึ่งในวิปัสสนูกิเลส 10 ที่ควรละ

จะเห็นว่า ไอ้ควายนรกภูมิธรรมมันก็เหมือนควายตัวอื่นๆ ในฝูงนี้ คือ วิชาธรรมกายบอกว่า ดวงเวทนาเป็นดวงจริงๆ  เห็นได้ 

ไอ้ควายพวกนี้ ไม่ฟังเสียง  ย้ำแล้วย้ำอีกว่า “เป็นนิมิต  ไม่รู้ว่ามันจะโง่ไปถึงไหน

ควายตัวต่อมา คือ ควายในคอกพันธุ์ทิพย์ซึ่งผมจัดสรรไว้นานแล้ว คือ ควาย cantona_z

่ข้อความที่ยกมาก็ชัดอยู่แล้วนี่ครับว่าไม่มีประโยคไหนเหมือนหรือเกี่ยวข้องกันเลย

ตามวิชาธรรมกาย ให้พิจารณา นิมิตคือดวงเวทนา ว่าใสไม่ใส ขุ่นไม่ขุ่น ใสคือสุข ขุ่นคือทุกข์ น้ำตาลคือกลางๆ

ตามพระไตรปิฏก ให้พิจารณาเวทนาอันเกิดจากผัสสะกระทบ เป็นสุขทุกข์ ก็รู้ว่าสุขทุกข์ มีอามิส ไม่มีอามิสก็ให้รู้ว่ามีอามิสไม่มีอามิส แล้วก็ให้พิจารณาความเกิดความเสื่อมของเวทนานั้น

ก็ไม่เห็นมีอะไรที่เหมือนกันเลย


ควายตัวนี้ ก็เหมือนควายตัวข้างบน คือ ยัดเยียดว่า ดวงเวทนาเป็นนิมิต   

การวิพากษ์วิจารณ์แบบนี้ มันผิดหลักวิชาการ  ในทางวิชาธรรมกายบอกว่า “ดวงเวทนาไม่ใช่ดวงนิมิต  คนวิพากษ์วิจารณ์ก็ต้องยึดถืออย่างนั้น 

แล้วจะวิพากษ์วิจารณ์อย่างไรก็ว่าไป  เช่น ไม่เห็นว่า พระไตรปิฎกจะกล่าวไว้อย่างนั้น เป็นต้น

ที่ถูกที่ควรก็จะต้องบอกว่า ในพระไตรปิฎกเขียนไว้อย่างนั้น  พวกมึงเห็นว่าเป็นอย่างไรด้วย

พวกมึงไม่ยอมบอกเลยว่า เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐานในพระไตรปิฎกคืออย่างไร หมดเม็ดไม่เขียนถึง  มึงได้แต่วิพากษ์วิจารณ์ผิดๆ เพี้ยนอย่างเดียว ตามประสาควายเท่านั้น

เอาข้อเขียนของไอ้ควาย cantona_z  ตัวนี้ก็ได้ ที่มันเขียนว่า “ตามพระไตรปิฏก ให้พิจารณาเวทนาอันเกิดจากผัสสะกระทบ  มันเป็นอย่างไรล่ะ

เพราะในพระไตรปิฎกก็ไม่มีคำว่า “ผัสสะ” ไม่มีคำว่า “กระทบ 

ผมขอยกเวทนานุปัสสนาสติปัฏฐานของแท้ ซี่งไม่มีข้อความมาแทรกอย่างที่ควายนรกภูมิธรรมยกมา ดังนี้

ข้อให้สังเกตว่า มีคำว่า “ผัสสะ” หรือไม่  มีคำว่า “กระทบ” หรือไม่  ในเมื่อไม่มีในพระสูตร แล้วไอ้ควาย cantona_z มันไปตีความมาจากข้อความใด

จะเห็นว่า ไม่มีคำอธิบายใดๆ หรือมีหลักฐานใดๆ จากควายจำพวกนี้





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น