บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์.... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989...
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู...

จบที่ไหนไม่สำคัญ

จากบทความที่แล้ว ในตอนท้ายผมได้ลงความคิดเห็นของไอ้สัตว์นรกตาลโตน ซึ่งลามปามไปด่าถึงคุณลุงการุณย์ บุญมานุช โดยที่คุณลุงไม่ได้รู้เรื่องอะไร

ในกระทู้  “กายในกาย ณ ภายนอก”  ก็ไม่ได้กล่าวถึงคุณลุง ไอ้สัตว์นรกตาลโตนมันเอาคุณลุงมาด่า โกหกว่า “ถูกไล่ออก”  ผมจึงต้องแช่งมันอย่างรุนแรงและเอาจริงอย่างที่เคยทำมาก่อน

หลังจากไอ้สัตว์นรกตาลโตนลงความคิดเห็นแล้ว คุณสมาชิกหมายเลข 769319  ก็ตอบไปดังนี้

เรียนคุณตาลโตน

ก่อนอื่น ผมขอให้การเสวนาของเราอยู่ในกระทู้นี้  อย่าได้ออกนอกไปถึงครูบาอาจารย์ของท่านเหล่านั้น เน้นการสอนของ ดร. มนัส โกมลฑา  วีดีโอ และสติปัฏฐาน

ถ้าไม่อย่างนั้น  ลูกศิษย์คนอื่นๆ จะเข้ามายุ่งทำให้กระทู้ออกนอกวัตถุประสงค์ไป

1.  เรื่องคุณวุฒิของ ดร. มนัส โกมลฑา นั้น ผมไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ว่า คุณตาลโตนเป็นนักเรียนเก่าของอังกฤษใช่หรือไม่ ถึงรู้เรื่องละเอียด คุณตาลโตนเรียนที่ไหนของประเทศอังกฤษ

2.  การสอนเด็กในวีดีโอนั้น มีข้อเสียอย่างไร เพราะการที่เด็กเห็นกายทิพย์ เห็นกายฝัน นอกจากจะปฏิบัติธรรมของศาสนาพุทธแล้วยังเป็นการฝึกฝนจินตนาการอีกด้วย 

ก็ตรงกับข้อความของไอน์สไตน์ที่ว่า "จินตนาการสำคัญกว่าความรู้"

3.  สำหรับ ดร. มนัส โกมลฑานั้น ผมทราบมาว่า ท่านจบปริญญาเอกจริงๆ จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และก็เป็นอาจารย์สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานจริง

อย่างอื่นๆ เดี๋ยวเราค่อยเสวนากันต่อ ตอนนี้เอาแค่นี้ก่อน

ไอ้สัตว์นรกตาลโตนตอบกลับ ดังนี้

ผมจะจบจากไหนอย่างไรไม่จำเป็นต้องอ้างอิง เพราะไม่มีผลประโยชน์อันใดในการสร้างเคดิต

แต่การสอนให้เด็กเห็นกายทิพย์กายฝันกายจินตนาการนั้นมันไร้เหตุผล พากันเพี้ยน เหมือนการสะกดจิตหมู่ ไม่มีประโยชน์อันใด

การสร้างจิตนาการในเชิงวิทยาศาตร์คือการจินตนาการบนพื้นฐานของความเป็นจริงที่เป็นไปได้

เกิดความคิดสร้างสรรค์ นำมาทดลองทดสอบ เกิดเป็นปฏิมากรรมล้ำสมัย เป็นการวิวัฒนาการของมวลมนุษย์ชาติ

แต่การมาให้เด็กสร้างจินตนาการเลอะเทอะ ในวัยเยาว์ ไม่ใช่สิ่งที่ควรกระทำ จะเข้าใจพุทธศาสนาไปในทางผิดๆ

การฝึกสมาธิในวัยเด็ก ทำเพื่อให้เขามีจิตสงบระงับ ไม่ซัดส่ายออกไปนอกกาย หยุดคิดหยุดจินตนาการทั้งมวล

ฝึกเพื่อให้เกิดสติระลึกรู้สิ่งเร้าที่มากระทบอายาตะนะทั้ง 6 ไม่ใช่ฝึกให้คิดฟุ้งซ่านมีพลังอำนาจเหนือมนุษย์

ทำไปเพื่อให้มีฤิทธิมีเดช กร้าวร้าว สาปแช่งผู้คน เหมือนยักษ์นนทกขอนิ้วเพชรพระอิศวร นั้นมันนิยายประโลมโลก

ขอทีเถอะจะมอมเมาหลอกล่อกับผู้ใหญ่เพื่อหวังได้อามิสสินจ้างก็ทำไป เด็กๆยังไร้เดียงสานัก อย่าให้เขาหลงทางแต่วัยเยาว์

จะเป็นบาปกรรมตกทอดถึงลูกหลานของผู้ที่คิดกระทำเยี่ยงนั้น อยากสอนเขาก็นำการฝึกสมาธฝึกจิตให้สงบระงับ ควบคุมกายใจไม่ใฝ่ต่ำ

รู้จักตนเอง รู้จักผู้อื่น มีเมตตามีอภัย มีใจเครพนพนอบ กตัญญูรู้คุณ รู้ตอบแทน รักชาติรักแผ่นดิน เท่านั้นก็สุดประเสริฐแล้วครับท่าน.

คุณสมาชิกหมายเลข 769319 ก็ตอบกลับไปอีกที ดังนี้

เรียน คุณตาลโตน

1.  ที่ผมถามอย่างนั้น เพราะข้อเขียนของคุณผิดมหาศาล  ผมจึงต้องถามก่อน แสดงว่า คุณไม่เคยไปเรียนอังกฤษ และไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยในอังกฤษเลย

มหาวิทยาลัยที่ ดร. มนัส ไปเรียนที่อังกฤษชื่อ University of Leeds  ไม่ใช่ University of Leeds  Integrated science

2.  University of Leeds มีคณะ  Faculty of Education, social Sciences and Law  อาจารย์ที่ปรึกษาของ ดร. มนัส โกมลฑา ตอนเรียนที่โน่นคือ Professor Duncan McCargo

อ่านรายละเอียดได้ที่นี่  http://www.polis.leeds.ac.uk/about/staff/mccargo/

3.  ดร. มนัส โกมลฑา เรียนปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ด้วยทุนโครงการปริญญาเอกกาญจนาภิเษก จึงต้องเรียน 2 ประเทศ

ที่กล่าวมานี้ เพื่อยืนยันว่า ข้อมูลของคุณไม่ถูกต้องเลย

สำหรับคำถาม ผมยังตอบการถามต่อว่า "การสอนเด็กในวีดีโอนั้น มีข้อเสียอย่างไร" ผมขอหลักฐานอย่างเป็นวิชาการ ไม่ใช่คุณคิดขึ้นมาเอง แล้วก็เขียนมา

ขอความกรุณาค้นคว้าให้มากกว่านี้ อย่ามั่วข้อมูลมาอีก เพราะ มันจะอายคนอ่านเขา

ขอให้สังเกตดูสำนวนภาษาของไอ้สัตว์นรกตาลโตนตัวนี้ดูให้ดี  จากสำนวนภาษาที่อหังการ์ ว่าตัวเองแน่ ถ้าหน้าไมค์ หลังไมค์ [ตรงนี้ผมก็ไม่รู้ว่าเขาทำกันอย่างไร] ตรงนี้ สำนวนภาษาเริ่มหมดความอหังการ์ไปแล้ว

สำนวนภาษาออกไปทางแก้ตัวเสียแล้ว ที่ว่า “ผมจะจบจากไหนอย่างไรไม่จำเป็นต้องอ้างอิง เพราะไม่มีผลประโยชน์อันใดในการสร้างเคดิต

ข้อความหลังจากนั้น ก็เริ่มเลอะเทอะ ไปไม่เป็นแล้ว 

เรามาดูกันต่อไปว่า ไอ้สัตว์นรกตาลโตนมันจะแถไปอย่างไงกันต่อที่บทความหน้า



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น