บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์.... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989...
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู...

วิชาธรรมกายไม่ใช่กสิณ


วันนี้ขอนำเสนอควายอีกตัวหนึ่งของห้องศาสนา พันธุ์ทิพย์   คนนี้ตั้งชื่อตัวมันเองว่า “สองนิ้วชี้”  ไอ้ “สองนิ้วชี้” ตัวนี้อยู่ห้องศาสนา พันธุ์ทิพย์มานานแล้ว  แต่ก็ยังโง่ดักดานเหมือนเดิม หรือหนักกว่าเดิม

สองนิ้วชี้”  จึงได้รับเกียรติเข้าสังกัด “ควายในพันธุ์ทิพย์” อีกตัวหนึ่ง


เนื้อหาก็มีสั้นๆ ดังนี้

จขกท. เคยให้ความเห็นไปว่า วิชชาธรรมกายของหลวงพ่อสดที่ให้จับภาพพระให้เป็นแก้วใส แล้วภาวนาสัมมา อรหัง คือ เป็นอาโลกสิณควบพุทธานุสสติกรมฐาน ซึ่งเป็นของดี

พอดีมีท่านผู้รู้ท่านให้ความเห็นว่า "อาโลกสิณเป็นกสิณแสงสว่าง ไม่ใช่เพ่งองค์พระหรือลูกแก้วในท้อง   อย่ามั่ว"

เลยจะขอสอบถามท่านผู้รู้ว่า มีท่านผู้รู้ท่านไหนค้านไหมครับว่าวิชชาที่ท่านสอนคือไม่ใช่อาโลกสิณควบพุทธานุสสติกรรมฐาน หน่ะครับ

ความคิดเห็นของคนอื่นก็มี แต่ยังไม่ใช่ประเด็นของการวิพากษ์วิจารณ์  ไอ้ควาย “สองนิ้วชี้” เข้ามาให้ความคิดเห็นเป็นลำดับที่ 5  ดังนี้

อืมม์....มันไม่ใช่แค่เพียงอาโลกสิน แต่มันไม่ใช่กสินเลยครับ เพ่ง กับ นึก มันคนละเรื่องกันเลยนะครับ

แล้วถ้าใครฝึกกสิณโดยใช้วิธีการนึก ท่านจะตั้งสติไม่ได้เด็ดขาดครับ คือหาตัวสติไม่เจอ ถ้าท่านไม่มีตัวสติ จิตมันก็ส่งออกนอกไปหมด

ถ้าท่านไม่เข้าใจคำว่าจิตส่งออก ท่านถามตัวเองตอนนี้เลยครับว่า มีสติอยู่กับตัวหรือไม่ หรือสติมาอยู่จดจ่อกับคำอธิบายของผม

อย่างไหนเรียกว่าสติอยู่กับตัว

วันๆ คนเราส่งจิตออกนอกทุกคนครับ เพียงแค่อ่านหนังสือจิตก็ส่งออกไปอยู่กับตัวหนังสือ เพียงแค่นึกเรื่องใดเรื่องนึง จิตมันก็ส่งออกไป

แล้วท่านไปนึกเห็นลูกแก้วแล้วอ้างว่า เห็นลูกแก้วอยู่กึงกลางกายก็เลยคิดว่า สติอยู่กับตัว ไม่ใช่ครับ ท่านเพียงเห็นลูกแก้วอยู่กึงกลางกาย

แต่สติไม่ได้ไปอยู่กึ่งกลางกายครับ แต่สติไปผูกติดอยู่กับลูกแก้ว (ที่เห็นอยู่กลางกาย) สติจะอยู่กับตัวจริงๆ ก็คือ จะต้องใช้สตินั่งอยู่เหนือองค์สมาธิ

ไม่ใช่เอาสติไปอยู่รวมกับสมาธิ

วิธีเพ่งกสิณ ท่านจะต้องเห็นกสิณผ่านเปลือกตาเท่านั้น จะนึกไม่ได้ เหมือนการเห็นภาพติดตาโดยไม่ต้องนึก

วิชาธรรมกายใช้นึกครับ ไม่ได้เห็นผ่านเปลือกตา พอนึกมันก็จะเห็นอะไรเป็นจริงเป็นจังไปหมดเพราะแรงจินตนาการ

อ่านความคิดเห็นของไอ้ควาย “สองนิ้วชี้”  ผมก็มึนไปกับความโง่ดักดานของมัน  ไม่รู้ว่ามันจะโง่ไปถึงไหน 

ที่มันเขียนมานั้น ผิดทั้งหมดเลย  ผิดในสาระสำคัญด้วย 

1- วิชาธรรมกายนั้น นักวิชาการ นักปฏิบัติ ต่างก็ยอมรับว่าเป็นสมถะกรรมฐาน ประเภทกสิณแสงสว่างแน่ๆ

สายยุบหนอ พองหนอ ก็ยังโจมตีว่า วิชาธรรมกายเป็นเพียงสมถะกรรมฐานเท่านั้น คือ ยอมรับว่าวิชาธรรมกายเป็นกสิณแสงสว่างแน่ๆ

ไอ้ควาย “สองนิ้วชี้” มันมีความรู้ในระดับใด  ถึงบังอาจบอกว่า “วิชาธรรมกาย” ไม่ใช่กสิณเลย  ไอ้นี่ มันโง่จริงๆ ตัวจริงเสียงจริง

มาดูหลักฐานของมัน  มันบอกว่า “เพ่ง กับ นึก” ไม่เหมือนกัน ตรงนี้ค่อยว่ากันทีหลัง แต่ดูข้อความที่แสดงให้เห็นถึงความสมองหมา ปัญญาควายของมันต่อไป ด้วยข้อความนี้

แล้วถ้าใครฝึกกสิณโดยใช้วิธีการนึก ท่านจะตั้งสติไม่ได้เด็ดขาดครับ คือหาตัวสติไม่เจอ ถ้าท่านไม่มีตัวสติ จิตมันก็ส่งออกนอกไปหมด

ตรงนี้ ในทางตรรกวิทยานั้น เขาถือว่าเป็นเหตุผลวิบัติ  คือ มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องที่กำลังถกเถียงกันว่า  มันบ้าเรื่องสติ  มันก็เลยจับเอามามั่วกันหมด  คล้ายๆ กับสำนวนไทยที่ว่า “ไปไหนมา สามวาสองศอก

ขอให้สังเกตว่า ไอ้ควาย “สองนิ้วชี้” มันไม่ได้อธิบายว่า “เพ่ง กับ นึก” ที่มันว่า ไม่เหมือนกันนั้น ไม่เหมือนกันอย่างไร 

มาดูคำอธิบายของวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรีกันเลย


จะเห็นว่า “คำว่า “เพ่งกสิณ” นั้น ก็คือ การนึกเอานั่นแหละ  พูดให้เป็นนักวิชาการหน่อยก็คือ การจินตนาการก็ได้

ไม่รู้ว่า โคตรเหง้าเหล่ากอของไอ้ควาย “สองนิ้วชี้” นี่มันโง่อยู่ในระดับไหน ถึงได้มีลูกหลานโง่ได้ถึงขนาดนี้

2- ประเด็นที่เกี่ยวกับ “เพ่ง กับ นึก” ไอ้ควาย “สองนิ้วชี้” มันเขียนว่า

วิธีเพ่งกสิณ ท่านจะต้องเห็นกสิณผ่านเปลือกตาเท่านั้น จะนึกไม่ได้ เหมือนการเห็นภาพติดตาโดยไม่ต้องนึก

วิชาธรรมกายใช้นึกครับ ไม่ได้เห็นผ่านเปลือกตา พอนึกมันก็จะเห็นอะไรเป็นจริงเป็นจังไปหมดเพราะแรงจินตนาการ

วิธีเพ่งกสิณของพ่อมันหรือไงก็ไม่รู้ที่ “จะต้องเห็นกสิณผ่านเปลือกตาเท่านั้น”  สงสัยเปลือกตาคนบ้านมันใสแบบคอนแท็กเลนส์

มันไม่มีตำราเล่มไหน ไม่มีวิธีปฏิบัติธรรมไหนที่สอนกันอย่างนี้

ไอ้นี่ ทั้งโง่ทั้งบ้า แต่มันไม่รู้ตัวเท่านั้น  ตายไปแล้ว ขอให้มึงตกนรกหมกไหม้ยกกำลัง 3 ในความชั่วของมัน

ในฐานะที่มันไม่มีความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมที่ถูกต้องเลย  เสือกมีหน้ามาโจมตีวิชาธรรมกาย..






3 ความคิดเห็น:

  1. ดูท่ามันจะมั่วแล้ว กสิณฝึกที่อื่น ก็ทั้ง "เพ่ง" ทั้ง "นึก" เหมือนกัน ถ้าเพ่งอย่างเดียว จะทำไปทำไม มันจะเห็นภาพนิมิตรึไง โอย ปวดหัว

    ตอบลบ
  2. การนึก เกิดจากการจำได้ ที่เรียกว่าสัญญา ความจำได้หมายรู้
    กระทำการเพ่ง เปิดตามองไปที่วัตถุ เพิ่อให้ชำนาญในการจำนิมิตร
    จินตนาการ การนึก การจำ นี่ คนละอาการกันใช่ไหมครับ อาจารย์

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. มันก็ต้อง "จำ" ได้ก่อน แล้วจึงมา "นึก" ทีหลัง สำหรับจินตนาการนั้น มันก็ "นึก" เหมือนกันแต่เพิ่มเติมเรื่องราวเข้าไป

      เช่น เรารู้จักงู รู้จักสิงโต สามารถนึกได้ ก็คือ "นึก" แต่ถ้าเรานึกเป็นมังกร คือ พัฒนางูให้สวยขึ้น เอาตีนสิงโตมาใส่เข้าไปนี่ คือ "จินตนาการ"

      ลบ