บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์.... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989...
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู...

กลุ่มของควายปัญญาอ่อน




ก่อนที่จะอธิบายและให้เหตุผลว่า “วิชาธรรมกายอธิบายเวทนานุปัสนาสติปัฏฐาน” ได้ถูกต้องที่สุด สามารถปฏิบัติตามได้   ผมขอวิพากษ์วิจารณ์ความเป็นสมองหมา ปัญญาควายของกลุ่มบุคคลในกระทู้นี้เสียก่อน

ส่วนใหญ่ ก็เป็นควายปัญญาอ่อนหน้าเดิมๆ ทั้งนั้น

ควายพวกนี้ บรรยายสภาวะความโง่ ความปัญญาอ่อนของพวกมันยากเหมือนกัน  คือ มันเป็นกลุ่มของควายที่ปัญญาอ่อนด้วย โง่สุดๆ ด้วย แล้วก็หน้าด้านสุดๆ ด้วย

หน้าด้านอย่างไร................

พวกควายเหล่านี้ เข้ามาถกเถียงในห้องศาสนามานานแล้ว  ในกรณีที่ถกเถียงเกี่ยวกับวิชาธรรมกายกับคุณสมาชิกหมายเลข 769319 นั้น  พวกสมองหมา ปัญญาควายเหล่านี้

แพ้และหนีกระทู้ทุกครั้ง 

แต่แล้วเดี๋ยวเดียว  มันก็จะหน้าด้านออกมาเขียนอีก  ด้วยความโง่เหมือนเดิม  พอเถียงแพ้อีก เดี๋ยวมันก็หนีไปอีก แล้วก็โผล่มาใหม่อีก

ผมถึงว่า บรรดาควายเหล่าทั้งหน้าด้าน ทั้งโง่

เมื่อผมได้ตอบกระทู้ดังกล่าวไปแล้วโดยการเขียนบทความในบล็อกนี้ ผมก็อีเมล์ไปให้คุณสมาชิกหมายเลข 769319  ไปให้ความคิดเห็นหน่อย ดังนี้

ความคิดเห็นที่ 11

ดูคำตอบของ ดร. มนัส โกมลฑา ได้ที่นี่ :

http://buffaloinphanthip.blogspot.com/2014/05/blog-post.html
http://buffaloinphanthip.blogspot.com/2014/05/blog-post_5.html

ควายนรกภูมิธรรมก็ตอบมาทันทีในความคิดเห็นที่ 12 ดังนี้

ดร.มนัส หรือ 769319 ผมว่าคุณเป็นคนเดียวกันนั่นแหละ แล้วผมก็ไม่เห็นค่าดร.นี้ด้วยนะ ดูจากภาษาที่ใช้แล้วไม่คิดว่าคนจบ ดร.เขาจะใช้กัน

ดูความสมองหมา ปัญญาควายของควายนรกภูมิธรรม

คุณสมาชิกหมายเลข 769319 เขามีบล็อกของเขาที่พันธุ์ทิพย์  แค่คลิก 2-3 คลิกก็รู้จักเขาพอสมควรแล้ว

ผมก็มีบล็อกของผม จะเป็นคนละคนกันได้อย่างไร

อย่างไรก็ดี  คุณสมาชิกหมายเลข 769319 เขาอ่านบทความของผมทั้งหมด เอาไปเผยแพร่ให้ด้วย  ส่วนใหญ่ก็คัดลอกไปลงเลย  ที่เขียนใหม่ก็มีบ้าง 

สำนวนภาษามันก็ต้องเหมือนกันบ้าง

ผมยืนยันว่า ผมยังไม่เคยพบคุณสมาชิกหมายเลข 769319 เลย และไม่เคยโทรศัพท์คุยกันด้วย คือ ยังไม่เคยได้ยินเสียงกันเลย

ผมติดต่อกันทางอีเมล์เท่านั้น  

คุณสมาชิกหมายเลข 769319 อ่านบทความของผม แต่ไม่ได้เรียนวิชาธรรมกายกับผม ท่านเรียนกับวิทยากรคนอื่น

แล้วที่ว่า “แล้วผมก็ไม่เห็นค่า ดร.นี้ด้วยนะ ดูจากภาษาที่ใช้แล้วไม่คิดว่าคนจบ ดร. เขาจะใช้กัน

ผมก็อยากจะตอบว่า “ก็มึงมันโง่ เป็นควายปัญญาอ่อน มึงจะเห็นค่าของคนที่เรียนปริญญาเอกได้อย่างไร”

นอกจากนั้น  มึงไม่เห็นค่าของกู กูก็ไม่เห็นจะเดือดร้อนอะไร” สำหรับปริญญาเอกนั้น “กูก็เรียนจบของกูมาจริงๆ  มึงไม่เชื่อก็เรื่องของมึง

สิ่งที่ควายนรกภูมิธรรมไม่กล้าเขียนถึงเลยก็คือ  เนื้อหาของบทความของผมเป็นอย่างไร มันแทงเข้าไปที่ยอดอกของบรรดาควายๆ เลยใช่หรือไม่

มาดูความคิดเห็นของบรรดาควายตัวอื่นๆ บ้าง

ควายวงกลมเข้ามาให้ความคิดเห็นที่ 4 ดังนี้

กระทู้ยอดเยี่ยม ครับ

ควายตัวนี้ก็อยู่มานานแล้ว  แต่ไม่มีพัฒนาการทางด้านความรู้บ้างเลย  โง่ยังไงก็อยู่ยังงั้น  กระทู้นี้ยอดเยี่ยมในความคิดเห็นของควายวงกลม ก็ไม่รู้จะบรรยายระบบของควายตัวนี้ได้อย่างไร

ควายนิ่งหนอเข้ามาให้ความคิดเห็นที่ 6 ดังนี้

หมาแมว ถ้าเราตีมัน มันยังรู้เลยว่า เวทนาเจ็บเป็นอย่างไร หมาแมวมันก็เหมือนคนนั่นแหละ แสวงหาแต่ความรู้สึกที่ดีๆ ให้มีเสพเสวย 

แต่คนพงษ์เผ่าเหล่าลัทธิธรรมกาย นี้แปลกมากไม่รู้จักเวทนา  ..เวทนาเป็นนามไม่ใช่รูป

เวทนาจะเป็นรูปได้ ก็เป็นรูปของความรู้สึก ไม่ใช่รูปที่มีรูปร่างเป็นด่างเป็นดวง หรือไม่ใช่รูปที่มีแสง มีสี มีทรวดทรง อะไรเลย

มันแสดงให้เห็นว่าเหล่าธรรมกาย ตั้งแต่เกิดมายันแก่ตาย วิชาธรรมกาย ไม่ได้ช่วยให้เหล่าธรรมกายรู้จักกับเวทนา ตามความเป็นจริงที่แมวหมามันก็รู้ได้

และไม่ได้ช่วยให้เหล่าธรรมกายรู้จักกับเวทนา ตามแนวทางของพระพุทธศาสนาเลย ทุกอย่างมันจึงคือการบิดเบือน แล้วก็บิดเบือนเฉือนหน้ากันเอง ..

อะไร ๆ ก็จะตีค่าให้เป็นรูปนิมิตไปหมด การสร้างนิมิต จากฐานความคิดของตัวเอง ต่างคนต่างคิด นิมิตก็ไม่อาจเหมือนกันได้เลยเป็นธรรมดา

ก็ยังสงสัยอยู่นา ว่าการเสวยอารมณ์ดมกลิ่นหอมของลมตดน่ะ จะตีค่าว่ารูปนิมิตเป็นอะไร...

ควายนิ่งหนอนี่มันก็สมองหมา ปัญญาควายเหมือนคนอื่น แต่มันเปิดเผยความโง่มากกว่า คือ พวกนี้คิดว่า “เวทนา หมายถึง ความเจ็บ 

พวกนี้ เข้าใจผิดเพราะไปเอาความหมายของคำว่า “เวทนา” ที่ใช้กันในชีวิตประจำวัน ไปแปลความหมายของคำว่า “เวทนา” ในพระไตรปิฎก

ขอยกข้อความของเวทนานุปัสสนาสติปัฏฐานอีกครั้งหนึ่ง ดังนี้


หมาแมว ถ้าเราตีมัน มันยังรู้เลยว่า เวทนาเจ็บเป็นอย่างไร หมาแมวมันก็เหมือนคนนั่นแหละ แสวงหาแต่ความรู้สึกที่ดีๆ ให้มีเสพเสวย 

แต่คนพงษ์เผ่าเหล่าลัทธิธรรมกาย นี้แปลกมากไม่รู้จักเวทนา  ..เวทนาเป็นนามไม่ใช่รูป

เวทนาจะเป็นรูปได้ ก็เป็นรูปของความรู้สึก ไม่ใช่รูปที่มีรูปร่างเป็นด่างเป็นดวง หรือไม่ใช่รูปที่มีแสง มีสี มีทรวดทรง อะไรเลย

มันแสดงให้เห็นว่าเหล่าธรรมกาย ตั้งแต่เกิดมายันแก่ตาย วิชาธรรมกาย ไม่ได้ช่วยให้เหล่าธรรมกายรู้จักกับเวทนา ตามความเป็นจริงที่แมวหมามันก็รู้ได้

และไม่ได้ช่วยให้เหล่าธรรมกายรู้จักกับเวทนา ตามแนวทางของพระพุทธศาสนาเลย ทุกอย่างมันจึงคือการบิดเบือน แล้วก็บิดเบือนเฉือนหน้ากันเอง ..

อะไร ๆ ก็จะตีค่าให้เป็นรูปนิมิตไปหมด การสร้างนิมิต จากฐานความคิดของตัวเอง ต่างคนต่างคิด นิมิตก็ไม่อาจเหมือนกันได้เลยเป็นธรรมดา

ก็ยังสงสัยอยู่นา ว่าการเสวยอารมณ์ดมกลิ่นหอมของลมตดน่ะ จะตีค่าว่ารูปนิมิตเป็นอะไร...

ควายนิ่งหนอนี่มันก็สมองหมา ปัญญาควายเหมือนคนอื่น แต่มันเปิดเผยความโง่มากกว่า คือ พวกนี้คิดว่า “เวทนา หมายถึง ความเจ็บ 

พวกนี้ เข้าใจผิดเพราะไปเอาความหมายของคำว่า “เวทนา” ที่ใช้กันในชีวิตประจำวัน ไปแปลความหมายของคำว่า “เวทนา” ในพระไตรปิฎก

ขอยกข้อความของเวทนานุปัสสนาสติปัฏฐานอีกครั้งหนึ่ง ดังนี้


จะเห็นว่าในการปฏิบัติหัวข้อธรรมะหัวนี้ ต้อง “เห็น  สุขเวทนา ทุกขเวทนา และอทุกขมสุขเวทนา รวม 3 อย่าง

พวกบรรดาควายๆ เหล่านั้น เคย “เห็น” หรือไม่ พวกมันไม่ยอมเห็นอะไรเลย  เห็นอะไรก็ว่าเป็นนิมิตลวงไปหมด

แล้วพวกสมองหมาปัญญาควายเหล่านี้ มันเคยกล่าวถึง สุขเวทนา กับอทุกขมสุขเวทนา หรือไม่  พวกมันไม่เคยกล่าวถึงเลย

พวกมันว่า “เวทนาคือการทนเจ็บ

ประการสำคัญก็คือ  สุขเวทนา ทุกขเวทนา และอทุกขมสุขเวทนา  ทั้ง 3 อย่างนี้ ต้องเห็นที่กายคนอื่นด้วย

พวกควายเหล่านี้ ไม่เคยเห็นอะไรเลย มันจะอธิบายเรื่อง “เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน” ได้อย่างไร  มันก็มั่ว โง่ไปตามประสาตควาย

แล้วก็บรรดาควายๆ เท่านั้น ที่เชื่อกัน..



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น