การเห็นกายในกายภายใน

วันนี้ ผมมาลองค้นๆ ดูว่า “ควายนรกภูมิธรรม”  มันเข้ามายุ่งกับกระทู้ของคุณสมาชิกหมายเลข 769319 ตั้งแต่เมื่อไหร่

ผมก็พบว่า ควายนรกตัวนี้ เข้ามายุ่งกับกระทู้ของคุณสมาชิกหมายเลข 769319 ครั้งแรกในกระทู้ “การเห็นกายในกายภายใน, การเห็นกายในกายภายนอก, การเห็นกายในกายทั้งภายในภายนอก”

เนื้อหาของกระทู้ก็เป็นดังนี้ มีวิดิโอประกอบด้วย ดังที่ยกไปด้านบนแล้ว

เนื่องด้วยผมเคยตั้งกระทู้เกี่ยวกับประเด็นการเห็นกายในกายภายในภายนอกไปแล้ว และตกไปแล้ว ต่อมาก็มีท่านผู้อื่นตั้งกระทู้ในทำนองเดียวกัน  แต่ผมว่า ยังไม่ได้ความรู้ที่กระจ่างแจ้ง จึงขอมาตั้งกระทู้อีกครั้งหนึ่ง ในมหาสติปัฏฐานสูตร จะมีข้อความนี้อยู่แทรกไปในบทท้ายๆ หลายแห่ง ดังนี้ : "ภิกษุย่อมพิจารณาเห็นกายในกายภายในบ้าง พิจารณาเห็นกายในกายภายนอกบ้าง พิจารณาเห็นกายในกายทั้งภายในภายนอกบ้าง" ในข้อความของพระสูตรดังกล่าว โดยหลักการของภาษาไทยแล้ว คำว่า “กาย” ในกายคำหลังจะต้องเป็นที่มีความหมายอย่างเดียวกันกับกายคำแรก   และถ้าหากต้องการบอกให้พิจารณาดูอวัยวะในร่างกายของตนเอง ก็ควรจะต้องเขียนว่า "พิจารณาอวัยวะในกาย"  และคำว่า "ร่างกาย" ก็เป็นคำพูดรวมทั้งตัว  เช่น เวลาคนจะบอกว่าเป็นนิ้วมือ ก็ต้องบอกว่านิ้วมือ ไม่ใช่บอกร่างกาย   ถ้าบอกร่างกาย ก็หมายรวมทั้งตัวของทั้งร่างกาย ซึ่งกายต่างๆ นั้น จะต้องเห็นในตัวเราด้วย (เห็นกายในกายภายใน) และจะต้องเห็นนอกตัวคือ กายของคนอื่นด้วย (เห็นกายในกายภายนอก) วิชาธรรมกายสามารถอธิบายได้ตรงตามข้อความของพระสูตร และมีตัวอย่างการสอนที่บันทึกเป็นวิดิโอไว้ การบันทึกวิดิโอเหตุการณ์การสอนนั้น แสดงว่า การสอนดังกล่าวเป็นข้อเท็จจริง (fact) ซึ่งคนที่ได้ดูแล้ว ควรจะตระหนักว่า “การดูวิดิโอนั้น เป็นประสบการณ์ตรง ความรู้ที่ได้จากประสบการณ์ตรงนั้นดีที่สุด ถูกต้องที่สุด”   ไม่ใช่ความรู้ที่ได้จากการคาดคะเน

กระทู้ดังกล่าวนั้น มีคนเข้ามาให้ความคิดเห็นกัน 66 ความคิดเห็น 

“ควายนรกภูมิธรรม”  เข้ามาให้ความคิดเห็นในความคิดเห็นที่ 12 แบบสั้นๆ ดังนี้

ต้องเข้าใจก่อนว่า กายในกายของวิชาธรรมกายและในสติปัฏฐาน ถึงแม้จะเรียกเหมือนกันแต่ความหมายต่างกัน

คุณสมาชิกหมายเลข 769319 ตอบควายนรกภูมิธรรมไปดังนี้

เรียน คุณภูมิธรรม ที่คุณกล่าวไว้ว่า ต้องเข้าใจก่อนว่า กายในกาย ของวิชาธรรมกายและในสติปัฏฐานถึงแม้จะเรียกเหมือนกันแต่ความหมายต่างกัน คุณมีคำอธิบายที่เป็นหลักฐานสนับสนุนความคิดของคุณหรือไม่   เพื่อผมจะได้โต้แย้งไปที่หลักฐานสนับสนุนของคุณ   การบอกว่า "ต่างกัน" เฉยๆแต่ไม่อธิบาย   ไม่สามารถโต้แย้งกันได้อย่างเป็นวิชาการ

ปรากฏว่า “ควายนรกภูมิธรรม”  เงียบหายไปนานจนผิดสังเกต  ผมคิดว่า ชาวนาคงจับเอาไปไถนาเสียแล้ว 

ในระยะนั้น ก็มีคนอื่นสับหน้าเข้ามาเถียง  “ควายนรกภูมิธรรม”  คงจะรอโอกาสมานาน จึงเข้ามาให้ความคิดเห็นที่ 19 ว่า

ถึงคุณ 769319 คห 12-3 คุณ cantona_z ได้แปะลิงค์ให้แล้วครับ ลองดูเองนะครับว่า เหมือนหรือไม่เหมือน

ลิงก์ที่ “ควายนรกภูมิธรรม”  อ้างถึงว่า คุณ cantona_z แปะลิงก์ไว้ก็คือ มหาสติปัฏฐานสูตร ของ http://www.84000.org/ ซึ่งไม่ได้บอกตอบปัญหาที่โต้แย้งกันแต่อย่างใด

ตรงนี้ แสดงให้เห็นชัดเจนอีกครั้งว่า สาวกของหมาโชดกนั้น  ไม่ได้มีความรู้อะไรเลย  สาวกของหมาโชดก “จำ” คำสอนของพระพม่ามาเท่านั้น

เมื่อมีปัญหาทำนองนี้ คือ คู่ปรปักษ์ หรือคู่โต้แย้งต้องการหลักฐานและคำอธิบาย  สาวกของหมาโชดก “ไม่เคย” ตอบได้อย่างสมเหตุสมผลแม้แต่ครั้งเดียว

ส่วนใหญ่แล้ว จะใช้ความหน้าด้าน หน้าหนา หนีกระทู้ไป  พอมีกระทู้ทำนองนี้ออกมาอีก ก็หน้าด้านเสนอหน้ามาอีก

เมื่อโดนโต้แย้ง ก็หนีไปอีก  เป็นอย่างนี้ทุกครั้ง

ครั้งนี้ คุณสมาชิกหมายเลข 769319 ตอบควายนรกภูมิธรรมไปดังนี้

เรียนคุณภูมิธรรม ผมต้องการเหตุผลประกอบคำอธิบาย   ซึ่งจะยกอะไรมาก็ได้  เช่น พระไตรปิฎก อรรถกถา งานเขียนของนักวิชาการ ฯลฯ  แต่ต้องมีคำอธิบายมาด้วย การไปยกลิงก์มาให้ไปอ่านเองนั้น  เป็นเรื่องเหลวไหล หากมีคำอธิบายที่มีเหตุผลประกอบ  อย่างนั้น การให้ลิงก์ไปอ่านเพิ่มเติมนั้น ก็พอรับได้ การที่คุณไปอ้างลิงก์ของคุณ cantona_z ก็ยิ่งแล้วใหญ่   เพราะคุณ  cantona_z ไม่มีความรู้ที่ลึกซึ้งอะไร  มีแต่ความคิดเห็นมั่ว  ไม่เป็นหลักวิชาการ

เท่านั้นแหละ อย่างที่ผมทำนายไว้  “ควายนรกภูมิธรรม”  ก็หนีกระทู้ไปอย่างควายๆ อีกครั้งหนึ่ง