บริจาค

เห็นว่า..บล็อกนี้ดี มีประโยชน์.... โปรดสนับสนุนผู้ทำบล็อกได้ที่ พร้อมเพย์ 083-4616989...
หรือบัญชี 002-1-70462-8 กสิกรไทย สาขาบางลำภู...

วิชาธรรมกายทำไมได้ยินเสียง





มาดูความเป็นควายตัวจริงเสียงจริงของ ไอ้ “สองนิ้วชี้” กันต่อ  กระทู้ก็ยังเป็นกระทู้เดิมคือ “วิชชาธรรมกาย ของหลวงพ่อสด เป็นอาโลกสิณ + พุทธานุสสติกรรมฐาน มีท่านผู้รู้ท่านไหนค้านไหมครับ?

ไอ้ “สองนิ้วชี้” มันบอกว่า วิชาธรรมกายไม่ใช่กสิณ ก็มีคนเถียงมันเยอะ มันจึงมาให้ความคิดเห็นที่ 7  ดังนี้

กสินจะได้ฌานครับ จะรู้ได้อย่างไรว่าได้ฌาน ก็คือการไม่ได้ยินเสียงครับ  ถ้าวิชชาธรรมกายถูกต้องจริง แต่ทำไมทุกกายถึงได้ยินเสียงครับ

ผมอ่านข้อความของ ไอ้ “สองนิ้วชี้” แล้ว ก็อึ้งในความโง่ระดับระบบคิดของมัน  มันมีระบบคิดที่โง่สุดบัดซบเกินคำบรรยาย

ไม่รู้ว่ามันไปสรรหาความโง่ในระดับระบบคิดนั้นมาจากไหน 

ในการโต้แย้งของผมนั้น ขอโต้แย้งตั้งแต่ในระดับหลักการ ไปจนถึงระดับปฏิบัติเลย  ซึ่งเมื่ออ่านแล้ว จะรู้ว่า ไอ้ “สองนิ้วชี้” เป็นควายตัวจริงเสียงจริงของแท้แน่นอน

การปฏิบัติธรรมในศาสนาพุทธต้องได้ยินเสียงหรือไม่คำตอบนั้น อ่านจากอนัตตลักขณสูตรกันเลย ตามภาพด้านบน 

ขอยกข้อความอีกครั้งหนึ่ง ดังนี้

ดูกร ภิกษุทั้งหลาย อริยสาวก ผู้ได้ฟังแล้ว เห็นอยู่อย่างนี้

จะเห็นว่า ในขณะที่พระปัจจวัคคีย์ฟังคำสอนของพระพุทธองค์นั้น ได้ปฏิบัติตามไปด้วย จนกระทั่งบรรลุพระอรหันต์

นั่นก็แสดงว่า คำสอนของวิชาธรรมกายถูกต้องตรงเผงกับพระสูตรแล้ว  การปฏิบัติธรรมต้องได้ยินเสียงได้ 

ไม่ใช่ปฏิบัติธรรมแบบหูหนวกอย่างที่ ไอ้ “สองนิ้วชี้” ควายตัวจริงเสียงจริงคิดอยู่

ทำไม ทุกกายถึงได้ยินเสียงครับ?

ผมไม่รู้ว่า ไอ้ “สองนิ้วชี้” ควายตัวจริงเสียงจริงตัวนี้ มันไปเอาความรู้นั้นมาจากไหน  สันนิษฐานเลยว่า  ถ้าคนที่ให้ความรู้ไม่ผิด มันก็ตีความผิดเอง

ในการสอนวิชาธรรมกายเท่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน และมีวิทยากรสอนนั้น  กายมนุษย์หยาบเท่านั้นที่ได้ยินเสียงการสอน  ไม่ใช่ทุกกาย

กายละเอียดทั้งหลายนั้น อยู่ในกายมนุษย์หยาบ จุดศูนย์กลางของแต่ละกายเป็นจุดเดียวกัน เมื่อกายมนุษย์หยาบได้ยินเสียง  กายอื่นๆ ก็จะได้ยินเสียงตามกายมนุษย์หยาบไปด้วย

ที่นี้ถ้าถามว่า ระหว่างกายละเอียดต่างๆ นั้น เขาได้ยินเสียงหรือไม่คำตอบนั้นก็คือ “ได้ยิน” แต่ไม่ใช่แบบกายมนุษย์หยาบ

สมมุติว่า เรากำลังอยู่ที่กายธรรม  แล้วไปดูสัตว์นรกอยู่ อยากจะรู้ว่า สัตว์นรกตนนั้น ไปทำกรรมชั่วอะไรมา

เราต้องเอาใจของกายธรรมของเรา เขาไปตามฐานของสัตว์นรกนั้น  คือ ปากช่องจมูก เพลาตา จอมประสาท และศูนย์กลางกาย

เมื่อไปถึงศูนย์กลางกาย หรือฐานที่ 7  กายธรรมของเราก็จะเห็นดวงธรรมของเขา  เราต้องเอาดวงธรรมของเรากับของสัตว์นรกซ้อนให้เป็นดวงเดียวกัน

เมื่อซ้อนกันสนิทดีแล้ว เราก็คุยกับเขาได้ 

การได้ยินเสียงของกายละเอียด จึงไม่เหมือนกับการได้ยินเสียงของกายมนุษย์หยาบ

การได้ฌาน ก็คือการไม่ได้ยินเสียงครับ 

ขอให้ไปดูภาพฌาน 2 ประเภท หรือ ฌาน 8 ด้านบน  จะไม่มีคำว่า “ไม่ได้ยินเสียง” อยู่ในองค์ประกอบของฌานดังกล่าว

ในการพิจารณาหัวข้อธรรมะของพวกที่ฝึกกสินมาก่อนนั้น ซึ่งไม่ใช่วิธีการของวิชาธรรมกาย เขาจะอนุโลม ปฏิโลมตั้งฌาน 1-2-34-5-6-7-8 แล้วก็ 8-7-6-5-4-3-2-1 จนกระทั่งใจนิ่งดีแล้ว

เมื่อจะพิจารณาหัวข้อธรรมะใดๆ เขาจะถอยลงมาอยู่ที่ฌาน 4

การผ่านฌาน 1-8 นั้น กลุ่มดังกล่าวจะได้แต่ “อารมณ์ฌาน” แต่ไม่เห็น “แผ่นฌาน”  สำหรับวิชาธรรมกายนั้น เราจะเห็นแผ่นฌาน  เมื่อจะอนุโลม ปฏิโลมฌาน เราจะเปลี่ยนที่แผ่นฌานเลย

การฝึกฌาน 8 เป็นวิชาย่อยวิชาหนึ่งของวิชาธรรมกายเท่านั้น ไม่ใช่วิชาสำคัญวิชาเดียวอย่างกลุ่มที่ฝึกกสินนิยมทำกัน

การที่ ไอ้ “สองนิ้วชี้” ควายตัวจริงเสียงจริง มันกำหนดว่า “การได้ฌาน ก็คือการไม่ได้ยินเสียงครับ” จึงเป็นเรื่องของความโง่งี่เง่าของมันเท่านั้น

การที่ ไอ้ “สองนิ้วชี้” ควายตัวจริงเสียงจริง มันอ้างหลักฐานว่า การที่วิชาธรรมกายมีการได้ยินเสียง จึงไม่ใช่กสิน  มันจึงหาสาระอะไรไม่ได้

เป็นเรื่องของระบบคิดแบบควายของ ไอ้ “สองนิ้วชี้” เท่านั้น






วิชาธรรมกายไม่ใช่กสิณ


วันนี้ขอนำเสนอควายอีกตัวหนึ่งของห้องศาสนา พันธุ์ทิพย์   คนนี้ตั้งชื่อตัวมันเองว่า “สองนิ้วชี้”  ไอ้ “สองนิ้วชี้” ตัวนี้อยู่ห้องศาสนา พันธุ์ทิพย์มานานแล้ว  แต่ก็ยังโง่ดักดานเหมือนเดิม หรือหนักกว่าเดิม

สองนิ้วชี้”  จึงได้รับเกียรติเข้าสังกัด “ควายในพันธุ์ทิพย์” อีกตัวหนึ่ง


เนื้อหาก็มีสั้นๆ ดังนี้

จขกท. เคยให้ความเห็นไปว่า วิชชาธรรมกายของหลวงพ่อสดที่ให้จับภาพพระให้เป็นแก้วใส แล้วภาวนาสัมมา อรหัง คือ เป็นอาโลกสิณควบพุทธานุสสติกรมฐาน ซึ่งเป็นของดี

พอดีมีท่านผู้รู้ท่านให้ความเห็นว่า "อาโลกสิณเป็นกสิณแสงสว่าง ไม่ใช่เพ่งองค์พระหรือลูกแก้วในท้อง   อย่ามั่ว"

เลยจะขอสอบถามท่านผู้รู้ว่า มีท่านผู้รู้ท่านไหนค้านไหมครับว่าวิชชาที่ท่านสอนคือไม่ใช่อาโลกสิณควบพุทธานุสสติกรรมฐาน หน่ะครับ

ความคิดเห็นของคนอื่นก็มี แต่ยังไม่ใช่ประเด็นของการวิพากษ์วิจารณ์  ไอ้ควาย “สองนิ้วชี้” เข้ามาให้ความคิดเห็นเป็นลำดับที่ 5  ดังนี้

อืมม์....มันไม่ใช่แค่เพียงอาโลกสิน แต่มันไม่ใช่กสินเลยครับ เพ่ง กับ นึก มันคนละเรื่องกันเลยนะครับ

แล้วถ้าใครฝึกกสิณโดยใช้วิธีการนึก ท่านจะตั้งสติไม่ได้เด็ดขาดครับ คือหาตัวสติไม่เจอ ถ้าท่านไม่มีตัวสติ จิตมันก็ส่งออกนอกไปหมด

ถ้าท่านไม่เข้าใจคำว่าจิตส่งออก ท่านถามตัวเองตอนนี้เลยครับว่า มีสติอยู่กับตัวหรือไม่ หรือสติมาอยู่จดจ่อกับคำอธิบายของผม

อย่างไหนเรียกว่าสติอยู่กับตัว

วันๆ คนเราส่งจิตออกนอกทุกคนครับ เพียงแค่อ่านหนังสือจิตก็ส่งออกไปอยู่กับตัวหนังสือ เพียงแค่นึกเรื่องใดเรื่องนึง จิตมันก็ส่งออกไป

แล้วท่านไปนึกเห็นลูกแก้วแล้วอ้างว่า เห็นลูกแก้วอยู่กึงกลางกายก็เลยคิดว่า สติอยู่กับตัว ไม่ใช่ครับ ท่านเพียงเห็นลูกแก้วอยู่กึงกลางกาย

แต่สติไม่ได้ไปอยู่กึ่งกลางกายครับ แต่สติไปผูกติดอยู่กับลูกแก้ว (ที่เห็นอยู่กลางกาย) สติจะอยู่กับตัวจริงๆ ก็คือ จะต้องใช้สตินั่งอยู่เหนือองค์สมาธิ

ไม่ใช่เอาสติไปอยู่รวมกับสมาธิ

วิธีเพ่งกสิณ ท่านจะต้องเห็นกสิณผ่านเปลือกตาเท่านั้น จะนึกไม่ได้ เหมือนการเห็นภาพติดตาโดยไม่ต้องนึก

วิชาธรรมกายใช้นึกครับ ไม่ได้เห็นผ่านเปลือกตา พอนึกมันก็จะเห็นอะไรเป็นจริงเป็นจังไปหมดเพราะแรงจินตนาการ

อ่านความคิดเห็นของไอ้ควาย “สองนิ้วชี้”  ผมก็มึนไปกับความโง่ดักดานของมัน  ไม่รู้ว่ามันจะโง่ไปถึงไหน 

ที่มันเขียนมานั้น ผิดทั้งหมดเลย  ผิดในสาระสำคัญด้วย 

1- วิชาธรรมกายนั้น นักวิชาการ นักปฏิบัติ ต่างก็ยอมรับว่าเป็นสมถะกรรมฐาน ประเภทกสิณแสงสว่างแน่ๆ

สายยุบหนอ พองหนอ ก็ยังโจมตีว่า วิชาธรรมกายเป็นเพียงสมถะกรรมฐานเท่านั้น คือ ยอมรับว่าวิชาธรรมกายเป็นกสิณแสงสว่างแน่ๆ

ไอ้ควาย “สองนิ้วชี้” มันมีความรู้ในระดับใด  ถึงบังอาจบอกว่า “วิชาธรรมกาย” ไม่ใช่กสิณเลย  ไอ้นี่ มันโง่จริงๆ ตัวจริงเสียงจริง

มาดูหลักฐานของมัน  มันบอกว่า “เพ่ง กับ นึก” ไม่เหมือนกัน ตรงนี้ค่อยว่ากันทีหลัง แต่ดูข้อความที่แสดงให้เห็นถึงความสมองหมา ปัญญาควายของมันต่อไป ด้วยข้อความนี้

แล้วถ้าใครฝึกกสิณโดยใช้วิธีการนึก ท่านจะตั้งสติไม่ได้เด็ดขาดครับ คือหาตัวสติไม่เจอ ถ้าท่านไม่มีตัวสติ จิตมันก็ส่งออกนอกไปหมด

ตรงนี้ ในทางตรรกวิทยานั้น เขาถือว่าเป็นเหตุผลวิบัติ  คือ มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องที่กำลังถกเถียงกันว่า  มันบ้าเรื่องสติ  มันก็เลยจับเอามามั่วกันหมด  คล้ายๆ กับสำนวนไทยที่ว่า “ไปไหนมา สามวาสองศอก

ขอให้สังเกตว่า ไอ้ควาย “สองนิ้วชี้” มันไม่ได้อธิบายว่า “เพ่ง กับ นึก” ที่มันว่า ไม่เหมือนกันนั้น ไม่เหมือนกันอย่างไร 

มาดูคำอธิบายของวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรีกันเลย


จะเห็นว่า “คำว่า “เพ่งกสิณ” นั้น ก็คือ การนึกเอานั่นแหละ  พูดให้เป็นนักวิชาการหน่อยก็คือ การจินตนาการก็ได้

ไม่รู้ว่า โคตรเหง้าเหล่ากอของไอ้ควาย “สองนิ้วชี้” นี่มันโง่อยู่ในระดับไหน ถึงได้มีลูกหลานโง่ได้ถึงขนาดนี้

2- ประเด็นที่เกี่ยวกับ “เพ่ง กับ นึก” ไอ้ควาย “สองนิ้วชี้” มันเขียนว่า

วิธีเพ่งกสิณ ท่านจะต้องเห็นกสิณผ่านเปลือกตาเท่านั้น จะนึกไม่ได้ เหมือนการเห็นภาพติดตาโดยไม่ต้องนึก

วิชาธรรมกายใช้นึกครับ ไม่ได้เห็นผ่านเปลือกตา พอนึกมันก็จะเห็นอะไรเป็นจริงเป็นจังไปหมดเพราะแรงจินตนาการ

วิธีเพ่งกสิณของพ่อมันหรือไงก็ไม่รู้ที่ “จะต้องเห็นกสิณผ่านเปลือกตาเท่านั้น”  สงสัยเปลือกตาคนบ้านมันใสแบบคอนแท็กเลนส์

มันไม่มีตำราเล่มไหน ไม่มีวิธีปฏิบัติธรรมไหนที่สอนกันอย่างนี้

ไอ้นี่ ทั้งโง่ทั้งบ้า แต่มันไม่รู้ตัวเท่านั้น  ตายไปแล้ว ขอให้มึงตกนรกหมกไหม้ยกกำลัง 3 ในความชั่วของมัน

ในฐานะที่มันไม่มีความรู้เกี่ยวกับการปฏิบัติธรรมที่ถูกต้องเลย  เสือกมีหน้ามาโจมตีวิชาธรรมกาย..






หมอผีเฉลิมศักดิ์ควายตัวจริง





ควายในห้องศาสนา พันธุ์ทิพย์นั้น มันมากจริงๆ จนผมต้องเขียนบล็อกคอกควายขึ้นมาต่างหากเลย ก็บล็อกนี้นี่แหละ

มีควายตัวหนึ่งชื่อ “เฉลิมศักดิ์”  “ควายเฉลิมศักดิ์” หรือ “ควายหมอผีเฉลิมศักดิ์” นี่ มันมาหาเรื่องผมก่อน  โดยที่ผมก็ไม่รู้ว่าทำไม..

มารู้ที่หลังว่า ผมไปวิพากษ์วิจารณ์อาจารย์บุญมี เมธางกูร ซึ่งเป็นครูบาอาจารย์ของมัน  ควายหมอผีเฉลิมศักดิ์จึงได้พยายามมาขวิดผม

การที่มันเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์บุญมี เมธางกูร จึงถูกศัตรูในห้องศาสนาตั้งชื่อมันว่า “หมอผี” เมื่อผ่านมาถึงผม ฉายาดังกล่าวจึงกลายเป็น “ควายหมอผีเฉลิมศักดิ์

ควายหมอผีเฉลิมศักดิ์นี่ มันอยู่ในห้องศาสนา พันธุ์ทิพย์มานาน มีความชำนาญในพระสูตรต่างๆ คือ ใครเขาเถียงกันเรื่องอะไร  ไอ้ควายหมอผีเฉลิมศักดิ์ มันสามารถหาพระสูตรมาลงในกระทู้ได้ในเวลาอันสั้น

แต่ปัญหาของควายหมอผีเฉลิมศักดิ์ก็คือ ส่วนใหญ่มันเอามาลงเฉยๆ โดยไม่อธิบายว่า พระสูตรที่มันเอามานั้น มันสอดคล้องกับเรื่องที่เถียงกันอยู่อย่างไร

ที่ผมต้องมาเขียนถึง “ควายหมอผีเฉลิมศักดิ์” อีกครั้งหนึ่ง เพราะไปเห็นกระทู้นี้ “ท่านเฉลิมศักดิ์ กับ ท่านโปร่ง หายไปไหนครับ”  ท่านโปร่งผมไม่รู้จัก แต่ท่านเฉลิมศักดิ์ที่อยู่ในกลุ่มควายของผม ผมจึงสนใจว่า มันหายไปไหน

มีคนเข้ามาให้ความคิดเห็นว่า “ควายหมอผีเฉลิมศักดิ์” เปลี่ยนรูปเป็นหน้ากากเสือแล้ว ยังอยู่ในบอร์ด ผมก็สงสัยว่า “ควายหมอผีเฉลิมศักดิ์” มันเปลี่ยนชื่ออีกทำไม

ทีแรกมันชื่อ “เฉลิมศักดิ์”  แล้วก็เปลี่ยนเป็น “เฉลิมศักดิ์1”  แล้วมันเปลี่ยนทำไมอีก

แต่แล้วผมก็ขำกลิ้งไปหลายตระลบ เมื่อ “ควายหมอผีเฉลิมศักดิ์” มันมาบอกเองดังนี้

พอดีผมไป copy บทความ ของ ดร. มนัส  ธรรมกลายสายใหม่  ที่หยาบคาย มาลงในกระทู้  เลยถูกแบนครับ


กระทู้ของ ดร.มนัส ที่กล่าวถึงสมาชิก pantip

ลืมทำเป็นรูปภาพมาลงไว้

บอกตรงผมหัวเราะจนจุก   นึกในใจว่า ก็กูโดนแบนจากพันธุ์ทิพย์เพราะด่าเขา ด่ามึงด้วย  มึงทำไมถึงได้โง่หนักหนาสาหัสขนาดนั้น

ด้วยความโง่ของมันนี่แหละ  ผมถึงได้ตั้งชื่อบทความว่า “หมอผีเฉลิมศักดิ์ควายตัวจริง

เรามาดูกันในรายละเอียดถึงกระทู้ที่ทำให้ “ควายหมอผีเฉลิมศักดิ์” โดนแบนจากห้องศาสนา พันธุ์ทิพย์กันหน่อยว่า เป็นกระทู้อะไร  ขอให้ด้ดูวิดิโอจาก youtube ด้านบนด้วย

เรื่องของเรื่องก็คือ ตอนที่ผมไปออกรายการของ Amarintv นั้น  Amarintv ได้เอารายการเดียวที่ผมไปออกนั้น มาเผยแพร่ใน youtube เป็น 2 เรื่อง คือ

1- รายการต่างคนต่างคิด ตอน "ผ่าวิชชาธรรมกาย ใครทำ-มา-กลาย?"
2- ต่างคนต่างคิด@ผ่าวิชาธรรมกาย "มีจริงหรือลวงโลก"  รายการนี้แบ่งเป็น 2 ไฟล์

คุณ Nokay ได้เอาวิดิโอใน youtube รายการที่ 2 ดังกล่าวมาตั้งกระทู้ว่า “วัดธรรมกายจริงหรือลวงโลก”

คุณ Nokay แกคงเกลียดสมีเควี่ยธัมมชโยอย่างหนัก เพราะ นอกจากวิดิโอของผมแล้ว ยังเอาภาพอื่นๆ มาลงประกอบด้วย

เรื่องวิดิโอของผมนั้น พวกสมองหมา ปัญญาควายในห้องศาสนา พันธุ์ทิพย์ไม่กล้าให้ความเห็นอะไรเลย  มั่วไปแต่เรื่องอื่น

ควายหมอผีเฉลิมศักดิ์” เห็นมีชื่อผมโผล่ขึ้นมา โดยความเกลียดชังอย่างหนัก จากการด่าอาจารย์มัน แช่งมันด้วย  แสดงความโง่ของมันให้คนอื่นรู้ด้วย  มันเลยมาด่าผมเป็นชุด

เอาเฉพาะที่มันโดนแบนก็ความคิดเห็นที่ 5 ดังนี้

เมื่อก่อน มีสาวก ดร.มนัส ชอบเผยแพร่ทิฐิของ ดร. ท่านนี้ (หรืออาจจะเป็นคนเดียวกันหรือเปล่า?)

ชอบเอาเรื่องในห้องนี้ ไปเขียนบล็อกต่อว่าคนอื่น ไม่แมนเลย  ผมว่า ดร. มนัส นี้ ก็อาจจะลวงโลก ไม่แพ้ วัดธรรมกลาย น่ะ

กระทู้ สมาชิกหมายเลข 769319 (เพื่อยกย่องเชิดชู ดร. มนัส โกมลฑา ผู้ที่แยกตัวจากลัทธิธรรมกลาย สายใหม่)  http://pantip.com/profile/769319

วิชาธรรมกายสามารถสอนเด็กปัญญาได้  http://pantip.com/topic/30731666

วิชาธรรมกายสอนเด็กหูได้ (พิการ)  http://pantip.com/topic/30751522

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
บล็อก ดร.

1.  หมอผีถึงคราวซวย     http://buffaloinphanthip.blogspot.com/2013/08/blog-post_419.html

หมอผีเฉลิมศักดิ์ที่ผมให้เกียรติกล่าวถึงนี้ เป็นขาประจำของห้องศาสนาพันธุ์ทิพย์มาเป็น  10  ปีแล้ว และก็อย่างที่ผมเขียนไปแล้วว่า

ใครอยู่ห้องศาสนาพันธุ์ทิพย์เกิน 5 ปี ก็คือ สมองหมา ปัญญาควาย ทั้งสิ้น

หมอผีเฉลิมศักดิ์ก็เป็นพวก สมองหมา ปัญญาควาย ตัวจริงเสียงจริงคนหนึ่ง

2. หมอผีหน้ามึน     http://buffaloinphanthip.blogspot.com/2013/08/blog-post_8821.html
3. หมอผีดิ้นพราด     http://buffaloinphanthip.blogspot.com/2013/08/blog-post_4206.html
4. หมอผีจะสู้แล้ว     http://buffaloinphanthip.blogspot.com/2013/08/blog-post_8118.html
5. หมอผีไม่สู้ .......... แล้ว     http://buffaloinphanthip.blogspot.com/2013/08/blog-post_8320.html
6. หมอผีมีปัญหา     http://buffaloinphanthip.blogspot.com/2013/08/blog-post_6166.html  
7. ต้องแช่งหมอผี     http://buffaloinphanthip.blogspot.com/2014/04/blog-post_9.html  

มี สมาชิกหลายท่าน ที่ถูก ดร.มนัส พาดพิง

ดูแล้ว ในสมอง   คงจะมีแต่เรื่อง สัตว์เดรัจฉาน เช่น สุนัข และ กระบือ  เป็นต้น

ที่ผมขำมากก็คือ  ผลงานอันโด่งดังของผมก็คือ การด่าพวกสมองหมา ปัญญาควายในห้องศาสนา พันธุ์ทิพย์ส่งผลให้ผมโดนแบนเข้าไปเล่นไม่ได้

ผลงานอันโด่งดังของผมนั้น ก็โด่งดังขึ้นไปอีก คือ ขนาดว่ามีคนเอาชื่อบทความไปโพสต์ก็ยังโดนแบนไปด้วย